Biscotti Kids แผ่นรองคลาน เคล็ดลับการเลือกแผ่นรองคลานสำหรับเด็ก เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

แผ่นรองคลาน เคล็ดลับการเลือกแผ่นรองคลานสำหรับเด็ก เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

แผ่นรองคลาน

หนึ่งไอเทมที่เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “แผ่นรองคลาน” อย่างแน่นอน โดยปกติแล้วเราสามารถพบเห็นแผ่นรองคลานได้ทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น แผ่นรองคลานที่ทำมาจากโฟม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งวัสดุช่วยลดการกระแทก และช่วยป้องกันการเสียดสีได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเด็กจะฝึกคลานหรือฝึกเดิน ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความอันตรายอย่างแน่นอน 

แผ่นรองคลาน เลือกใช้ได้ง่าย ลดการบาดเจ็บของเด็กได้ดีที่สุด 

สำหรับเด็ก ๆ บ้านไหนที่กำลังอยู่ในวัยฝึกคลานหรือฝึกเดิน แผ่นรองคลานจะเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว เพราะเมื่อเด็กที่กำลังฝึกคลานหรือเดิน แขน ขา และหัวเข่าจะต้องไปเสียดสีกับบริเวณพื้นด้านล่าง แต่แผ่นรองคลานจะเข้ามาช่วยลดการเสียดสี และลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เด็กไม่รู้สึกเจ็บในบริเวณผิวที่ต้องเสียดสีกับพื้น และนอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวของเด็กไม่ให้ด้านได้อีกด้วย 

เทคนิคการเลือกซื้อแผ่นรองคลานที่ดีที่สุด 

สำหรับพ่อแม่คนไหนที่ต้องการเลือกซื้อแผ่นรองคลานของเด็ก ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย แต่ละรูปแบบล้วนมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของวัสดุที่ทำ ความปลอดภัยต่อการใช้งาน รวมทั้งในเรื่องของราคาด้วยเช่นกัน ดังนั้นพ่อแม่ทุกคนจะต้องเลือกแผ่นรองคลานที่ดีที่สุด โดยเทคนิคการเลือกแผ่นรองคลานจะมีเทคนิคดังนี้ 

  • เลือกจากความหนา: การเลือกแผ่นรองคลานที่ดีที่สุด ควรเลือกจากความหนาเป็นหลัก โดยความหนาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 10mm หรือ 1 cm ขึ้นไป เพราะหากมีความหนาน้อยกว่านี้ จะไม่สามารถป้องกันการบาดเจ็บได้ 
  • เลือกจากการคืนตัวของแผ่นรองคลาน: ก่อนที่จะซื้อแผ่นรองคลาน พ่อแม่ควรตรวจสอบก่อนว่า เมื่อมีการบิดหรือการกระแทกแรง ๆ จะสามารถคืนสภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ เพราะหากไม่มีการคืนตัวที่ดีพอ จะไม่สามารถป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กได้ดีพอ 
  • เลือกวัสดุที่มีความทนทานต่อแดด: ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าแดดในประเทศไทยร้อนมหาศาล ดังนั้นหากเลือกซื้อแผ่นรองคลาน ควรเลือกที่ทนทานกับสภาพแวดล้อมได้ เพื่อไม่ให้แผ่นรองคลานเสื่อมสภาพก่อนวัย 

เลือกซื้อแผ่นรองคลานควรเลือกแผ่นรองคลานที่มีมาตรฐาน เพราะเด็กจะต้องสัมผัสกับแผ่นรองคลานโดยตรง หากเลือกแบบไม่มีมาตรฐานอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน ดังนั้นพ่อแม่ทุกคนควรศึกษาเทคนิคเลือกแผ่นรองคลานให้ดี เพื่อลดปัญหาอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากกว่าเดิม

Related Post

เรื่องของเด็กเล็ก

เด็กเล็กมีพัฒนาการเปลี่ยนอย่างไรบ้างในแต่ละวัยเด็กเล็กมีพัฒนาการเปลี่ยนอย่างไรบ้างในแต่ละวัย

ในปัจจุบันนี้เรื่องของเด็กเล็กนั้นเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องยิ่งให้ความสนใจกันอย่างมากมายเลยจะยิ่งดีเพราะว่าในเรืองของเด็กเล็กนั้นในแต่ละวัยตั้งแต่ทารกเติบโตขึ้นมานั้นก็จะมีการพัฒนาตนเองในแต่ละช่วงวัยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนอย่างที่สุดเลยนั้นเอง เพราะการที่เด็กได้มีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันนั้นต้องบอกเลยว่าขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วยอย่างเช่นถ้าเราอยู่ในบ้านที่มีเด็กเยอะๆเด็กก็จะยิ่งมีพัฒนาการที่ไวขึ้นและรับรู้รับฟังได้ไวขึ้นด้วยและเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจกันมากๆด้วยจึงจะยิ่งดีเพราะอย่างน้อยในเรื่องของเด็กเล็กนั้นหากเรามีพัฒนาการที่ดีแล้วนั้นก็จะส่งผลที่จะช่วยทำให้เรานั้นมีความสุขที่สุดด้วย ในเรื่องของพัฒนาการของเด็กในแต่ละวัยนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากว่าเด็กเล็กนั้นก็จะเรียนรู้กับสิ่ต่างๆที่อยู่รอบตัวและเรียนรู้จากสิ่งที่เค้าได้เนและได้จดจำมาด้วยซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราเองก็จะต้องอย่าละเลยหรือมองข้ามไปเลยอย่างน้อยหากเราไม่ละเลยหรือมองข้ามไปแล้วก็จะส่งผลที่ดีที่จะทำให้เราได้ยิ่งเห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆวันกับเด็กเล็กด้วย ทุกๆอย่างจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเลยในเรื่องของการพัฒนาเด็กเล็กเพราะยิ่งเราได้ให้เด็กได้ฝึกความคิดและฝึกความทรงจำแล้วนั้นก็จะเป็นเรื่องที่ดีเพราะเด็กก็จะได้เป็นคนที่ยิ่งเรียนรู้และเป็นคนที่มีความจำที่ดีอีกด้วย เราจึงควรที่จะต้องสังเกตเด็กเล็กเป็นประจำด้วยว่าเค้ามีการพัฒนาการที่ดีหรือไม่ดีอย่างไรเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจมากๆด้วยจึงจะยิ่งดีเพราะอย่างน้อยในเรื่องของพัฒนาการสำหรับเด็กเล็กนั้นก็จะมองข้ามไปไม่ได้เลย หากเราเลี้ยงเด็กแล้วเห้นว่าเด็กอาจจะมีความผิดปกติขึ้น ก็จะต้องพาเด็กไปหาหมอเพื่อตรวจว่าเด็กมีพัฒนาการที่ปกติหรือเปล่าเพราะบางคนอาจจะพูดช้า หรือเดินช้าซึ่งอาจจะทำให้เกิดความกังวลใจของผู้ใหญ่ด้วยดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ดีกับตัวเราเองอย่างมากมายเลย และหากเราได้ให้ความสนใจกับเรื่องของเด็กเล็กแล้วนั้นก็จะทำให้เราเป็นคนที่มีความสุขกันอย่างที่สุดเลยเพราะเราก็จะได้รีบช่วยกันแก้ไขได้ทันหากเราเห็นความผิดปกติของตัวเด็ก ดังนั้นเรื่องของเด็กเล็กจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่เราเองก็จะละเลยหรือมองข้ามไปไม่ได้เลยนั้นเอง

รับผลิตของพรีเมี่ยมอย่างไรให้ถูกใจลูกค้ารับผลิตของพรีเมี่ยมอย่างไรให้ถูกใจลูกค้า

ปัจจุบันมีบริษัทหรือเจ้าของกิจการมากมายที่หันมาให้ความสนใจและเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับผลิตของพรี่เมี่ยม เพราะการรับผลิตของพรีเมี่ยมนี้เรียกได้ว่าเป็นม้ามืดของวงการการตลาดที่หลายคนไม่ควรมองข้ามเลย โดยเฉพาะหากเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วด้วย  ในการรับผลิตของพรีเมี่ยมเพื่อให้ถูกใจลูกค้านั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดไม่ใช่การสร้างเว็บไซต์สวยงานเพื่อให้ดึงดุดลุกค้าเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการบริการหรือการเลือกวัสดุและอื่นๆ อีกมากมาย โดยในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจวิธีการหรือเคล้ดลับเล็กน้อยสำหรับการรับผลิตของพรีเมี่ยมที่จะถูกใจลุกค้าอย่างแน่นอน  ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้และมุ่งมั่นที่จะมอบคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์แก่ลูกค้า คุณก็จะสามารถเริ่มต้นธุรกิจการรับผลิตของพรีเมียมที่ประสบความสำเร็จซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและสร้างชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมได้อย่างแน่นอน

เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับหมอเด็กเรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับหมอเด็ก

เมื่อเอ่ยถึงหมอเด็ก เชื่อได้เลยว่าคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็คงจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากว่าแพทย์เด็กจะช่วยในการรักษาโรคของลูกน้อย ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อลูกน้อยเจ็บป่วยขึ้นมา ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับพ่อแม่ได้แก่ การที่ไม่รู้ว่าลูกน้อยป่วยด้วยโรคใดกันแน่ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักกับแพทย์เด็ก วันนี้มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับหมอเด็กมาดูพร้อมกัน  บุคลิกของหมอเด็ก  1.มีความละเอียดอ่อน  เนื่องจากว่าเด็กๆ เป็นวัยที่ภูมิต้านทานของโรคน้อย นอกจากนี้ยังไม่สามารถเข้าใจถึงการสื่อสารถึงความเจ็บปวดของตนเองได้ กุมารแพทย์จึงต้องเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อน มีความอดทนสูง พึงระลึกไว้เสมอว่าโรคบางโรคของเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่ ซึ่งอาจทำให้การวินิจฉัยแตกต่างกัน การมีความละเอียดลออในการตรวจรักษาโรคจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้กุมารแพทย์ยังอาจต้องมีความเข้าใจถึงอาการเจ็บป่วยของเด็กให้มากขึ้นอีกด้วย  2.มีความอดทน  สำหรับความอดทนถือเป็นคุณสมบัติที่เด่นไม่แพ้กันในการจะเป็นกุมารแพทย์ เนื่องจากว่ากุมารแพทย์ถือเป็นบุคคลที่ต้องคอยตรวจโรคให้กับเด็กเล็กๆ เวลาที่เด็กๆ เหล่านี้ร้องไห้โยเย กุมารแพทย์จะเป็นผู้ตรวจวินิจฉัย ซึ่งเมื่อเด็กร้องไห้ก็ต้องหยุดตรวจไปชั่วขณะ ไม่สามารถตรวจได้ กุมารแพทย์จะต้องมีลูกล่อลูกชนสำหรับการค้นหาวิธีการในการหยุดการร้องไห้ของเด็กได้  3.มีความเข้าใจในกลวิธีการรักษา